fbpx

11. สภาวะ Ongrid : ความหมายของ Grid กริด คือโครงข่ายของการไฟฟ้าฯ ดังนั้นสภาวะ Ongrid ก็คือระบบฯ ยังมีการเชื่อมต่อกับไฟของการไฟฟ้าฯ หรือยังมีไฟของการไฟฟ้าฯเป็นแหล่งจ่ายไฟด้วย ซึ่งก็อาจจะมีโซล่าเซลล์ หรือแบตเตอรี่ร่วมจ่ายไฟให้กับโหลดด้วย

12. สภาวะ Offgrid : หมายความเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีไฟ ของการไฟฟ้าฯ มาเชื่อมต่อ หรือให้เข้าใจง่ายคือ ไฟของการไฟฟ้าฯดับนั่นเอง ซึ่งโหลดก็ต้องอาศัยแหล่งจ่ายจากแหล่งอื่น เช่น ไฟจากโซล่าเซลล์ , จากแบตเตอรี่ หรือจากเจ็นเนอเรเตอร์ เป็นต้น

13. MPPT (Maximum Power Point Tracking):

เทคโนโลยีช่วยดึงพลังงานจากแผงมาใช้ได้สูงสุด ซึ่งส่วนใหญ่ในปัจจุบัน อินเวอร์เตอร์ที่ใช้ในงานบ้านพักอาศัย จะมี 2 MPPT ขึ้นไป ซึ่ง MPPT ก้เหมือนอินเวอร์เตอร์ย่อยๆ นั่นเอง ซึ่งแผงโซล่าเซลล์ที่ต่อใน MPPT เดียวกันต้องอยู่ในทิศรับแสงเดียวกันเพื่อจะได้ทำให้มีประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าได้ดีสุด

 

พูดง่ายๆ มันคือระบบที่ทำหน้าที่ “เสือกอย่างชาญฉลาด” เพื่อไปจิ้มจุดที่ แผงโซล่าเซลล์จะผลิตไฟได้แรงสุดๆ แบบเต็มแม็กซ์! ??

? แผงโซล่าทำไฟได้หลายแบบ แล้ว MPPT ทำไมต้องมายุ่ง?

เพราะแผงโซล่าเซลล์มัน “อารมณ์แปรปรวน” ?

  • ตอนแดดออกเต็มๆ ไฟก็พุ่งพรวดๆ ☀️

  • พอเมฆบัง ไฟก็หดแบบคนโดนเท ?️

  • แล้วแผงโซล่ามันดันไม่รู้ตัวว่าตัวเองจะผลิตไฟแรงสุดได้ตอนไหน ?

เลยต้องมี MPPT มาคอย “กระซิบข้างหู” ว่า“เฮ้ย! ตรงนี้แหละจุดฟินสุด! กดตรงนี้ เดี๋ยวไฟพุ่ง!” ⚡

? มันทำงานยังไง?

MPPT เป็นเหมือนนักสืบ (หรือไม่ก็แฟนขี้จับผิด) ที่คอยเช็กตลอดเวลา:

  1. แรงดัน (Voltage) เท่าไหร่?

  2. กระแส (Current) ไหลยัง?

  3. แล้วจุดไหนที่ได้ “พลังงานสูงสุด” ?

มันจะคอยไล่ลองแบบ “ลูบไล้แรงดัน” ไปเรื่อยๆ จนเจอจุดที่

Voltage x Current = Power มากที่สุด แล้วมันก็ล็อกไว้ที่จุดนั้น! ??

 

14. BMS (Battery Management System) : ระบบจัดการแบตเตอรี่ – Solis รุ่น Hybrid จะมีการ เชื่อมต่อสื่อสารกับ BMS ของแบต ผ่านพอร์ต CAN หรือ RS485 ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและยืดอายุแบตเตอรี่  “ระบบผู้จัดการแบต ที่ทำหน้าที่เหมือนแม่บ้าน-ผู้คุมกฎ-นักจิตวิทยา รวมร่างกัน เพื่อดูแลแบตไม่ให้พัง!”

? แล้วมันดูแลอะไรบ้างล่ะ? BMS ไม่ได้ว่างงาน มันมีงานเต็มมือ (เหมือนหัวหน้า HR ที่ต้องดูแลพนักงานแบตหลายเซลล์พร้อมกัน) โดยหลักๆ แล้วมันทำสิ่งเหล่านี้:

✅ 1. ตรวจสอบแรงดัน (Voltage Monitoring)

– แบตแต่ละเซลล์ต้องอยู่ในช่วงแรงดันที่ปลอดภัย
– เกิน = พัง ตูม ?
– ต่ำ = เสื่อมไว เหมือนนอนน้อยจนหน้าโทรม ?‍♂️

✅ 2. คุมกระแสไฟ (Current Monitoring)

– กระแสเกิน = สายไหม้ ?
– กระแสน้อย = ชาร์จไม่เข้า วิ่งไม่แรง เหมือนกินข้าวไม่พอ

✅ 3. ตรวจจับอุณหภูมิ (Temperature Monitoring)

– ร้อนเกิน = มีสิทธิ์ระเบิด
– หนาวเกิน = ชาร์จไม่เข้า
– ต้องคอย "ฟังใจแบต" ว่าหนาว ร้อน หรือป่วย ?

✅ 4. Balancing (ปรับสมดุลเซลล์)

– ถ้าแบตบางเซลล์แรงดันสูงกว่าชาวบ้าน
– BMS จะ ลดแรงดันเซลล์นั้นลงให้สมดุลกันทั้งก้อน
– ไม่งั้นระบบพังทั้งยวง เหมือนเพื่อนร่วมกลุ่มไม่ช่วยงาน ?

✅ 5. ป้องกันความเสียหาย (Protection)

– ป้องกันการชาร์จเกิน, ดิสชาร์จเกิน, ลัดวงจร ฯลฯ
– ถ้าเกิดอะไร BMS จะตัดระบบทันที! เหมือนเบรกมืออัตโนมัติ ⛔?

? แล้วถ้า "ไม่มี BMS" จะเกิดอะไร? ลองจินตนาการใช้แบตลิเธียมโดยไม่มี BMS…

  • ชาร์จเกิน: แรงดันสูง เซลล์บวม ตูม!! ??

  • ใช้จนหมด: แรงดันต่ำเกิน เซลล์เสื่อม กลายเป็นขยะไว ⚰️

  • เซลล์แรงดันไม่เท่ากัน: เซลล์บางก้อนพังก่อน ทำให้ทั้งก้อนแบตไร้ค่า

  • กระแสรั่ว ลัดวงจร: ความเสียหายระดับ “บ้านไฟไหม้” ??

  • หรือที่หนักสุดคือ... "แบตลิเธียมกลายเป็นระเบิดพกพา" ? 

พูดง่ายๆ เลยว่า: “แบตลิเธียมก็เหมือนคนสวยขี้วีน ต้องดูแลดีๆ ไม่งั้นพังไว ตายไว และอาจพาคนอื่นพังไปด้วย” ?

สำหรับแบตเตอรี่ของ BYD LV5.0จะมี BMS รวมอยู่ในเคสแบตเตอรี่ ซึ่งทำให้ง่ายในการนำมาใช้งาน และมีความปลอดภัยมากที่เจ้าของแบรนด์ BYD จัดการแบตเตอรี่ด้วยตัวเอง โดยหากเรานำไปใช้งานร่วมกับอินเวอร์เตอร์ ยี่ห้ออื่น ก็แค่เชื่อมต่อพอร์ท CAN ด้วยสาย RS485 ก็ซิงค์ข้อมูลใช้งานร่วมกันได้ (เพียงแต่ว่า อินเวอร์เตอร์ยี่ห้อนั้นๆ ได้ทดสอบร่วมกัน BYD แล้วหรือไม่ ซึ่งเราก็จะเรียกว่า Compatible Inverters )

 

15. Time-of-Day Tariff : TOD :  หมายความว่า การไฟฟ้าคิดค่าไฟตามยูนิตไฟที่ใช้ โดยค่าไฟต่อหน่วย จะคิดเป็นแบบขั้นบันได (ไม่ได้ยึดช่วงเวลา) เช่น 

      หน่วยที่ 1 - 15  หน่วยละ  2.3488 บาท

      หน่วยที่ 16 - 25  หน่วยละ  2.9882 บาท

      หน่วยที่ 26 - 35  หน่วยละ  3.2405 บาท     

       ...เป็นต้น

โดยปกติ บ้านพักอาศัย จะเป็นการคิดค่าไฟฟ้าแบบ TOD ยกเว้นที่เราจะไปทำเรื่องกับการไฟฟ้าฯ เปลี่ยนเป็น TOU ได้


16. Time-of-Use Tariff : TOUหมายความว่า การไฟฟ้าคิดค่าไฟตามช่วงเวลา ทีใช้ไฟ โดยแบ่งเป็น

      ♦ On Peak : เวลา 09.00 - 22.00 น.  วันจันทร์ - วันศุกร์    ค่าไฟแพง (4–5 บาท/หน่วย)
      ♦ Off Peak : เวลา 22.00 - 09.00 น.  วันจันทร์ - วันศุกร์    ค่าไฟถูก (2–3 บาท/หน่วย)
                        : เวลา 00.00 - 24.00 น.วันเสาร์ - วันอาทิตย์ วันแรงงานแห่งชาติ วันหยุดราชการตามปกติ (ไม่รวมวันพืชมงคลและวันหยุดชดเชย) ค่าไฟถูก (2–3 บาท/หน่วย)

✅ TOU เหมาะกับใคร? 

  • โรงงานหรืออาคารที่ใช้ไฟเยอะช่วงกลางคืน

  • บ้านที่มีแบตเตอรี่หรือระบบ Hybrid Solar

  • คนที่สามารถ "เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟ" ไปยังช่วง Off-Peak ได้

  • ? ตัวอย่างการใช้ TOU ร่วมกับระบบไฮบริด มีระบบ Solis Hybrid Inverter + แบตเตอรี่ BYD

ตั้งค่าแบบมือโปร (ร่วมกับฟีเจอร์ Time-of-Day / TOD):

  • กลางคืน (22:00–09:00) → ชาร์จแบตจากไฟฟ้า (ไฟถูก)

  • กลางวัน (09:00–18:00) → ใช้ไฟจากโซลาร์

  • เย็น (18:00–22:00) → ใช้ไฟจากแบต (แทนไฟแพงช่วง Peak)

? แบบนี้จะช่วยลดค่าไฟได้อย่างชัดเจน

? สรุปสั้นๆ แบบคนกันเอง: “TOU คือค่าไฟที่คิดตามเวลา — ถ้าใช้ไฟตอนคนอื่นหลับ...คุณจ่ายถูกกว่า!”

เหมาะสุดกับบ้านที่มีระบบ Hybrid หรือโรงงานที่วางแผนโหลดได้